Listen to Episode

Read Episode Transcript

วิกฤตเพดานหนี้สาธารณะเดดซีลิงสหรัฐอเมริกากำลังจะเบี้ยวหนี้ครั้งใหญ่ใช่หรือไม่เพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์เป็นเงินไทยก็ 1,000 ล้านล้านบาทก็ใหญ่ขนาดที่เอาเศรษฐกิจของหลายประเทศมารวมกันผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือนเลยนะครับว่าหากสภาคองเกรสไม่ 3 ารถยกระดับเพดานหนี้ได้ทันเวลาสิ่งที่ตามมาที่จะเกิดขึ้นคือมหาวิบัติทางการเงินกับกลุ่มกาบาตครั้งใหญ่ทางการเงินหรือสิ่งที่เรียกว่าไฟแนนซ์เชียลอาร์มาเกดดอน เด็กเอนเดอร์สแตนด์เดอะพอดแคสต์เลิศสิเกรดสอดเอ็กเซ็กเตอร์เอสเพรสเซอร สวัสดีครับผมเคนนครินทร์และนี่คือเดอะซิกธ์ซอสเอ็กเซ็กคิวทีฟเอสเปรสโซ่สรุปความเคลื่อนไหวในโลกเศรษฐกิจธุรกิจแบบเข้มข้นเหมือนเอสเพรสโซ่ให้ผู้บริหารอย่างคุณไม่พลาดประเด็นสำคัญ สำหรับใครที่กำลังรอหนังสือดิอินวิซิเบิลลีดเดอร์หรือว่าผู้นำล่องหนตอนนี้พิมพ์ครั้งที่ สอง เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ วางจำหน่ายแล้วคุณ 3 ารถหาได้ สอง ช่องทางนี้นะครับช่องทางแรกครับไลน์ชอบครับของเดอะแเองนะฮะแอดไลน์ตามคิวอาร์โค้ดที่อยู่ในคลิปได้เลยหรือว่ากดลิ้งในคอมเม้นต์ได้เช่นกันอันที่ สอง ครับตามคำเรียกร้องครับร้านหนังสือชั้นนำใกล้บ้านคุณตอนนี้มีให้ไปซื้อเรียบร้อยแล้วนะครับไม่ว่าจะเป็นกินนมคุนิยะบีทูเอสซีเอ็ดหรือว่าร้านนายอินทร์ครับโดยหนังสือจะทยอยเข้าสาขาใกล้บ้านคุณตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไปครับ พิเศษครับสำหรับลูกค้าองค์กรที่อยากสั่งซื้อเกิน 10 เล่มขึ้นไปเรามีส่วนลดพิเศษให้กับคุณด้วยครับติดต่อมาทางไลน์ของเด็กซอสได้เลยครับมาเรียนรู้ความเป็นผู้นำล่องหนด้วยกันนะครับ วิกฤตเพดานหนี้สาธารณะเด็ดสีลิงค์สหรัฐอเมริกากำลังจะเบี้ยวหนี้ครั้งใหญ่ใช่หรือไม่แล้วสิ่งที่จะเกิดขึ้นมันจะกลายเป็นมหาวิบัติทางการเงินหรือว่าไฟแนนเชียลอัมมาร์เกดอนและกระทบมาถึงประเทศไทยจริงหรือไม่วันนี้ต้องมาพูดคุยกันในเรื่องเศรษฐกิจมหภาคอีกครั้งครับเชื่อว่าใครหลายคนที่อ่านข่าวต่างประเทศอ่านข่าวที่อยู่ในแวดวงตลาดทุนตลาดการเงินก็จะเห็นคำนี้ครับซีลลิ่งหรือว่าเพดานหนี้สาธารณะแล้วก็จะเห็นข่าวคำว่าวิกฤติเพดานหนี้ตอนนี้ สหรัฐอเมริกากำลังอยู่ในจุดหัวเลี้ยวหัวต่ออีกครั้ง หนึ่ง มันคืออะไรกันแน่แล้วมันจะกระทบกับตลาดอย่างไรและวิธีการแก้ไขคืออะไรและคนไทยอย่างเราเกี่ยวอะไรกับเขาด้วยวันนี้ไล่เรียงให้ฟังนะครับก่อนอื่นต้องมาอธิบายกันสักเล็กน้อยนะครับเอาภาระหนี้ก่อนภาระหนี้ตอนนี้รัฐบาลสหรัฐอเมริกามีอยู่ให้เดาเล่นๆว่าตัวเลขเท่าไหร่นะฮะตัวเลขของหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯในปัจจุบันนี้อยู่ที่ 31.4 ล้าน ล้านดอลลาร์ครับลองไปคุณเป็นคนไทยเองนะฮะว่าเป็นจำนวนเท่าไหร่ เขามีหนี้ที่เยอะมากจนกระทรวงการคลังของสหรัฐฯต้องออกมาประกาศใช้มาตรการพิเศษเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีผิดนัดชำระหนี้หรือว่าดีฟอลหรือว่าบางคนบอกเบี้ยวหนี้ชักดาบแล้วแต่คำที่จะใช้ต้องมีการขยายเพดานหนี้โดยเร็วนะฮะซึ่งเหล่านี้มันคืออะไรอธิบายง่ายๆที่เพดานหนี้ก่อนดีกว่าเพดานหนี้ก็ตรงตัวเลยครับมันก็เหมือนผมนะผมทำธุรกิจผมก็จะมีค่าใช้จ่ายของผมที่ผมต้องใช้ใช่ไหมฮะแล้วผมใช้ไม่พอผมก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาใช้แต่ผมต้องมีเพดานของผมไม่เช่นนั้นมันจะเกินตัวเกินไปคือไม่ 3 ารถที่จะชดใช้หนี้นั้น ใช่แต่ถ้าเกิดว่าเป็นบุคคลธรรมดาเนี่ยบางทีทางบัตรเครดิตเองหรือสถาบันการเงินที่เป็นคนที่ให้กูเราเนี่ยเขาก็จะบอกไม่ให้แล้วคุณเกิ้ลแหละเต็มจำนวนและเวลาหรือบัตรเครดิตมันก็จะมีวงเงินถูกไหมฮะคล้ายๆกันเลยครับทางรัฐบาลเองก็มีวงเงินเช่นเดียวกันซึ่งในมุมมองของสหรัฐอเมริกาเขาใช้คำว่าเพดานหนี้มันคือตัวเลขหนี้ที่รัฐบาลกลางได้รับอนุญาตให้ก้อได้ครับด้วยการกู้มาใช้สำหรับการบริหารของประเทศเงินเอามาใช้บ้างครับใช่จ่ายเงินเดือนของเจ้าหน้าที่รัฐโครงการสวัสดิการต่างๆเช่นประกันสังคมการรักษาพยาบาล รวมถึงเงินเดือนของทหารในกองทัพที่ผ่านมาครับสหรัฐนั้นมีปัญหาเรื่องงบประมาณมาโดยตลอดครับเนื่องจากงบประมาณประจำปีมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ ก็คือหารายได้มาเนี่ยไม่พอกับการที่เราจะต้องใช้จัดออกไปถามว่าทำยังไงเขาก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมานั่นเองครับเพื่อใช้จ่ายในกิจกรรมต่างๆและเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณก็เรียกได้ว่าหนี้สินที่รัฐบาลกลางนั้นกู้ยืมมาก็คือหนี้สาธารณะนั่นเองประเทศไทยก็มีคำนี้อยู่เช่นเดียวกันแล้วก็มีเพดานของประเทศไทยด้วยเช่นเดียวกันนะฮะคำถามก็คือเรามีไว้เพื่ออะไรมันมีไว้เพื่อรักษาวินัยทางการคลังของรัฐบาลไม่ให้เกิดการก่อหนี้สะสมในระดับที่สูงเกินไปจึงมีการกำหนดเพดานหนี้เอาไว้ฮะ ถ้าเกิดมันสูงเกินไปแล้วใช่คือไม่ได้นี้แย่นะคะก็ต้องมีการกำหนดเพดานหนี้เอาไว้แต่ล่าสุดครับมันกลายเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นมาครับเมื่อคุณเจเน็ตเยลเลนรัฐมนตรีคลังสหรัฐได้ออกมาเปิดเผยถึงนี้ของรัฐบาลสหรัฐในตอนนี้ฮะ ว่า กำลังโคม่ากำลังแตะเพดานสูงสุดจนทำให้สหรัฐเ 4 ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ก็คือชักดาบเบี้ยวหนี้นะฮะในวันที่ หนึ่ง มิถุนายนนี้และหากสภาคองเกรสเนี่ยไม่ลงมติขยายเพดานหนี้ให้กับสหรัฐฯและไม่ 3 ารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้จะถือเป็นเรื่องใหญ่มากๆครับเพราะอะไรเพราะสหรัฐถือเป็นประเทศมหาอำนาจหากเศรษฐกิจอันดับ หนึ่ง ของโลกเงินหมดหมดตูดถังแตกผิดนัดชำระหนี้จริงๆเศรษฐกิจโลกก็อาจพังย่อยยับได้แต่เมื่อสักครู่ผมพูดคำว่าสภาคองเกรสหลายคนก็อาจจะงงเอ๊ะ ทำไมการขยายเพดานหนี้ขยายวงเงินเนี่ยมันต้องผ่านสภารอนะฮะในเชิงของสหรัฐอเมริการะบบเขาเป็นอย่างงั้นประเทศอื่นอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นคือไม่จำเป็นต้องผ่านรัฐสภาก็ได้ถ้าจะมีสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะแล้วก็ขยายเพดานหนี้ไปก็ได้ซึ่งอันนี้ผมจะมาเล่าในส่วนท้ายว่าจริงๆแล้วมันเป็นเรื่องของการเมืองเช่นเดียวกันนะฮะแต่ความสำคัญหรืออิมแพคของการมีเดดซีลิงอันนี้คืออะไรมันมีความสำคัญมากถึงขนาดที่ว่าโจไบเดนครับประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาเนี่ยมีกำหนดการที่จะต้องเดินทางไปยังออสเตรเลียและปาปัวนิวกินีเพื่อกระชับความสัมพันธ์ ก็ยกเลิกเลยยกเลิกเพื่อมาเจรจาปัญหาเพดานหนี้อันนี้แทนไม่ว่าตอนหลังมีเรื่องประชุมจี 7 เขาก็ประชุมตามปกตินะแต่โอ้โหเป็นห่วงเป็นใยมากๆตั้งคนสนิทคนสำคัญมาช่วยดูให้ความสำคัญมีการยกเลิกเรื่องของภารกิจต่างๆแสดงว่าเป็นเรื่องใหญ่ฮะผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือนเลยนะครับว่าหากสภาคองเกรสไม่ 3 ารถยกระดับเพดานหนี้ได้ทันเวลาสิ่งที่ตามมาที่จะเกิดขึ้นคือมหาวิบัติทางการเงินครับอุกกาบาตครั้งใหญ่ทางการเงินหรือสิ่งที่เรียกว่าไฟแนนเชียลอมาก็นอนมันขนาดนั้นเชียวหรือไม่ลองไปไล่เรียงกันต่อครับ อ่ะทีนี้เรามาดูย้อนดูไทม์ไลน์นึงผมว่าจะมีภาพภาพ หนึ่ง เป็นภาพที่ทำให้ทุกคนเข้าใจว่าแล้วก่อนนี้ไปทำไมแล้วในอดีตมันมีนี่ขนาดอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันก็ต้องบอกว่ามีมานานแล้วนะครับ อธิบายไปแล้วตั้งแต่ตอนต้นนะฮะว่าเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์เป็นเงินไทยก็ 1,000 ล้านบาทกอใหญ่ขนาดที่เอาเศรษฐกิจของหลายๆประเทศมารวมกันเนี่ยได้เท่ากับจำนวนนี้แบบนี้เลยทีเดียวนะฮะหากไม่ 3 ารถชำระหนี้ตามเวลาที่กำหนดได้หรือว่าผิดนัดชำระหนี้มันก็จะเป็นเหมือนเคสที่เราเคยเห็นในประเทศอื่นๆในช่วงโควิด 19 ปากีสถานศรีลังกาแบบนี้เป็นต้นนะครับในอดีตที่ผ่านมาสหรัฐเคยเบี้ยวหนี้ไม่เคยครับเคยแล้วในปี 1,970 ครับ อ้างว่าเป็นกระบวนการของเอกสารและระบบที่ขัดข้องแต่กรณีถังแตกหรือไม่มีเงินจ่ายยังไม่เคยเกิดขึ้นและหากสหรัฐผิดนัดชำระหนี้นะครับในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ลองดูภาพนี้ครับสำหรับคนที่ดูยูทูปนะฮะก็จะเห็นกราฟนะครับย้อนดูนะฮะว่าการขยายนี้ของสหรัฐเนี่ยจริงๆแล้วมีมานานแล้วฮะตั้งแต่ปี 1,960 ถามว่าขยายเพดานหนี้มาแล้วกี่ครั้ง 78 ครั้งครับโอ้โหเป็นธรรมเนียมแล้วนะฮะการขยายเพดานหนี้ของเค้า 78 ครั้งเราจะดูได้เลยครับว่าเพดานหนี้ของสหรัฐฯไล่ตั้งแต่ปี 1,980 ถ้าดูจากรูปถึงปี 2,020 เขาแบ่งสีไว้ให้ด้วยนะฮะระดับของนี้ก็คือการที่เป็นระดับสูงขึ้นไปเรื่อยๆเนี่ยนะฮะมี 4 ไว้ด้วย 4 คืออะไรครับ 4 คือพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันครับก็ชัดเจนนะเราจะเห็นเลยครับริการสีแดงเนาะ 49 ครั้งเดโมแครต 29 ครั้งก็จะเห็นว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมามีการขยับเพดานหนี้ตามแต่รัฐบาล ที่พักนั้นเนี่ยเป็นประธานาธิบดีอยู่นะครับมันน่าสนใจตรงนี้ครับข้อมูลจากสภาคองเกรสครับระบุนะครับว่างบประมาณปี 2,022 มีประมาณ 4.9 ล้านล้านดอลลาร์แต่เขามีรายจ่ายถึง 6.3 ล้านล้านดอลลาร์บวกลบคูณหารกันออกมาครับก็คือตรงไปตรงมาฮะก็คือติดลบก็คือขาดงบดุลไปจนถึง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์นั่นเองครับนี่คือตัวเลขที่เราเห็นกันนะฮะแล้วเรามาดูอีกกราฟนึงครับเราจะเห็นภาพรวมว่าหนี้สาธารณะมีความไม่สมดุลกับรายได้พอสมควร สุขภาพนี้ก็จะเห็นว่าแบรนด์ดิ้งกับวิวที่ได้รวมทั้งไอ้ตัวแน็ตฟิสิกส์นะฮะหรือว่าสิ่งที่เขาเป็นหนี้หรือขาดดุลอยู่เนี่ยมันมีจำนวนหนี้มาเป็นระยะเวลาพอสมควรอยู่แล้วนะฮะก็เลยเป็นเปอร์เซ็นต์ออกมาแบบนี้ครับเราจะเคยได้ยินประเทศไทยหนี้สาธารณะอยู่ที่ 60% นะ 70% น่ะในช่วงโควิดกู้เพิ่มมากก็เลยดันเพดานขึ้นไปเพิ่มขึ้นปัจจุบันนี้สหรัฐนะครับมีหนี้สาธารณะเทียบกับจีดีพีคือเอาไปเทียบกับจีดีพีอยู่ที่ร้อย 30% ก็ถือว่าสูงพอสมควรเนื่องจากอะไรสาเหตุมาจากอะไรมาจากการอัดฉีดเงินและการช่วยเหลือธุรกิจรายใหญ่ครับตั้งแต่ปี 2,009 ก็คือในช่วงวิกฤตซับไพรม์ไครสต์สิสนั่นเองหรือแม้กระทั่งในช่วงโควิด 19 ครับที่จะต้องมีการเพิ่มการจ่ายสวัสดิการต่างๆที่สูงขึ้นมีการอัดฉีดเข้าไปให้กับผู้ประกอบการด้วยหรือว่าคนที่เป็นคนตัวเล็กด้วยทำให้ทางรอดเดียวของสหรัฐฯก็คือการเพิ่มวงเงินนี้ขึ้นไปอย่างไรก็ตามครับก็มีทางเลือกอื่นนะฮะไม่ว่าจะเป็นการลดการใช้จ่ายของรัฐก็จะช่วยสถานการณ์นั้นดีขึ้นแต่ว่ามันอาจจะใช้เวลานานนั่นเองนะฮะเทียบกับไทยอย่างที่ผมบอกครับตอนนี้ของไทยเนี่ยหนี้สาธารณะต่อจีดีพีเนี่ยอยู่ที่ 61% ก็ซึ่งถือว่าค่อนข้างดีแต่นั่นคือหนี้สาธารณะถ้าเราไปดูหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีอันนี้น่ากังวล พอสมควรเช่นเดียวกันประเทศไทยมีอยู่ 86% อันนี้อัพเดทล่าสุดนะฮะเพราะว่าไอ้ตัวจีดีพีน้ำมันเพิ่มขึ้นด้วยเนอะมันก็ทำให้สัดส่วนตรงนี้มันลดลงนะฮะทีนี้เรามาดูความคืบหน้ากันดีกว่าว่าแล้วถ้ามันเป็นอย่างนี้เนี่ยตอนนี้เขาทำอะไรกันอยู่สถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไรสถานการณ์ครับในวันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคมครับมีการหารือเพื่อขยายเพดานหนี้ของทั้ง สอง ฝ่ายเกิดขึ้นแต่ก็ต้องบอกว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดครับเพราะว่ามีการวอล์กเอาต์กันเกิดขึ้นของฝ่ายรีพับลิกันครับบลิกันก็คือเป็นฝ่ายที่อยู่ตรงกันข้ามกับรัฐบาลในตอนนี้นะแต่ว่าเขาครองเสียงส่วนใหญ่ ในพาร่างอยู่นะฮะก็กล่าวโทษฝ่ายเดโมแครตเลยครับว่าพยายามจะทำให้การประชุมไม่คืบหน้าด้วยการเสนอของบประมาณรายจ่ายในปีหน้าเพิ่มขึ้นอีกคือเป็นก็บอกเนี่ยเดโมแครตหรือว่าฝั่งที่เป็นของคุณโจไบเดนเนี่ยมาของบเพิ่มอีกเนี่ยโอ้ยนี่ต้องตัดงบนเนี่ยตอนนี้นี้ก็เยอะอยู่แล้วเขาให้สัมภาษณ์อย่างนี้คุณเควินแม็กคาร์ธีคนที่มีความสำคัญเพราะอะไรเพราะว่าเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรเลยด้วยซ้ำอยู่ฝ่ายรีพับลิกันเนี่ยนะฮะเขาบอกว่าน่าหงุดหงิดมากเลยที่พวกเขาเนี่ยเข้ามาในห้องเจรจาแล้วก็คิดแต่ว่าจะใช้จ่ายงบประมาณในปีถัดไปเพิ่มขึ้นจากปีนี้มีมันไม่ถูกต้อง เราไม่ยอมอันนี้ก็จะเป็นเรื่องการเมืองแล้วเขายังพูดเพิ่มเติมนะครับบอกว่าเราควรใช้จ่ายลดลงเราต้องปฏิรูปการใช้จ่ายของตัวเองผมคิดว่าเราจะก้าวต่อไปได้ถ้าหากข้อตกลงร่วมกันในเรื่องนี้ได้และผมเห็นความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ก็ยังบอกว่ามีโอกาสเป็นไปได้แต่ก็ยังเถียงกันอยู่นะครับและล่าสุดครับทางคุณคิดว่าเมกาที่ได้ออกมาพูดอีกครั้งนะครับว่าการเจรจาต่อรองจะกลับมาเดินหน้าอีกครั้งเมื่อไบเดนให้กลับมาจากการประชุมจี 7 แล้วเค้าก็บอกว่าผมไม่คิดว่าการเจรจาจะมีความคืบหน้าจนกว่าทางคุณโจไบเดนเนี่ยจะเดินทางกลับมายังสหรัฐซึ่งวันนี้ผมอาจวันนี้เขาเดินทางกลับมาแล้วนะฮะแล้วให้เข้าสัมภาษณ์กับสื่อด้วยเขาบอกผมไม่กังวลเลยแม้แต่น้อย เราจะหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้ในที่สุดการเจรจาในรอบแรกไม่มีความคืบหน้านักแต่ในรอบที่ สอง และ 3 ต้องมีความคืบหน้าบางอย่างอันนี้ก็ต้องติดตามกันต่อว่าจะจะมีการเจรจาแล้วสำเร็จรู้เรื่องได้หรือไม่แต่หลายคนบอกว่ามันเป็นเกมการเมืองครับยังไงก็ขยายเพดานหนี้ได้ครับนักลงทุนนักวิเคราะห์บอกว่าไม่ต้องกังวลยังไงก็ 3 ารถขยายเวลานี้ได้แน่นอนเพราะทำมาแล้วเนี่ยอย่างที่ผมบอกเนี่ย 78 10 กว่าครั้งเนี่ยแต่ตลาดมันผันผวนไปแล้วไงเพราะฉะนั้นเราลองไปเจาะดูกันใหม่ครับว่าการเมืองของอเมริกันกับนี้ของเขาเนี่ยทำไมมันถึงมาเกิดกันได้เนี่ยมันมีความสัมพันธ์กันอย่างไรแล้วทำไมสภาคองเกรสเนี่ย ซึ่งหาข้อสรุปในการเพิ่มเพดานหนี้ไม่ได้ ต้องเล่าอย่างนี้ครับในอดีตการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯถือเป็นเรื่องปกติไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลจากเดโมแครตหรือพับลิกันก็ต้องกู้เงินมาชดเชยเพราะว่าเขาขาดดุลงบประมาณกันทั้งคู่นะฮะแต่ในระยะหลังเนี่ยมันกลายเป็นเกมการเมืองของทั้ง สอง พรรคที่ทำให้ปัญหาเพดานหนี้ยืดเยื้อและยังไม่บรรลุข้อตกลงนั้นส่วน หนึ่ง เกิดจากแต่ละพรรคพยายามต่อรองให้เกิดความได้เปรียบและหาเสียงในตัวเองก็คือการกำหนดงบการใช้จ่ายของรัฐบาลฝ่ายรีพับลิกันครับต้องการให้รัฐบาลเดโมแครตปรับลดงบประมาณรายจ่ายลงครั้งใหญ่เพื่อแลกกับการขยายเพดานหนี้ โดยโจมตีว่าการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลเดโมแครตในปัจจุบันกำลังจะทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะล้มละลายแล้วก็ให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเรื่องของวินัยทางการคลังมากขึ้นเมื่อกี้คุณเควินแม็คกะทิก็ออกมาสัมภาษณ์เรื่องนี้นะครับเดโมแครตล่ะครับเดโมแครตไม่พอใจกับแนวทางดังกล่าวแน่นอนโดยสื่อสารว่าไม่ต้องการที่จะต่อรองใดๆเพราะการใช้จ่ายที่ลดลงของภาครัฐจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายหลายอย่างของพรรคซึ่งจะส่งผลต่อคะแนนความนิยมในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมาถึงและทำให้ฝ่ายบริการนั้นมีแต้มต่อทางการเมืองได้มาแค่โจมตีกลับเลยนะครับว่าการนำเรื่องของเพดานหนี้มาเป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง มันเกิดผลเสียต่อเศรษฐกิจของทั้งประเทศมาแล้วในอดีตและยังมีความเ 4 ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยแบบจมลึกไปอีกนะครับจริงๆมีคำสัมภาษณ์ของคุณซ้ำด้วยนะครับแต่ผมอาจจะมาอ่านให้ดูสั้นๆแล้วกันว่ามันมีมิติของการหาเสียงจริงๆแล้วก็มีมิติในเรื่องของในเกมการเมืองจริงๆนะฮะคุณทำบอกอย่างนี้บอกตอนนี้สหรัฐนะฮะกำลังใช้จ่ายงบประมาณอย่างสุรุ่ยสุร่ายเหมือนกับการซี้ขี้เมาเลยนะเป็นดิ้งมันนี่ไลน์ดังขึ้นเซเลอร์ออกมาพูดแบบนี้เนาะกำลังจะตายแล้วประเทศเรากำลังถูกทำลายหรือพวกคนโง่ แล้วก็คนที่โง่มากๆอ่ะนี่ก็เป็นสิ่งที่คุณทำพยายามที่จะมาดิสเครดิตฝั่งตรงข้ามนะฮะแต่ว่าพิธีกรของซีเอ็นเอ็นก็ถามนะว่าคุณเคยบอกตอนเป็นประธานาธิบดีว่าเพดานหนี้คือสิ่งที่ต้องเจรจาต่อรองเพื่อไม่ให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้เกิดขึ้นทำไมตอนนี้คุณไม่ได้คิดแบบนั้นและทำก็ตอบกลับมาบอกว่าตอนนี้ผมไม่ใช่ประธานาธิบดีแล้วเนี่ยสิ แนวหน้าพระราชทาน ก็เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยแล้วกันนะครับทำให้มองเห็นว่ามันเป็นเกมการเมืองจริงๆทีนี้ลองมองต่อไปดีกว่าลองมองในท่าทีของผู้ที่กำหนดนโยบายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงเลยก็คือเฟสครับท่าทีของเฟดนั้นเป็นอย่างไรเมื่อมันมีความไม่ชัดเจนของการเจรจาเรื่องของเพดานหนี้เกิดขึ้นผลกระทบคืออะไร ต้องบอกนะครับว่าการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯเรื่องของการเพิ่มหรือลดอัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับเสถียรภาพทางการเงินอยู่แล้วประเมินจากสภาวะเศรษฐกิจแล้วก็เพดานหนี้ที่รัฐบาลสหรัฐฯนั้นก่อขึ้นแม้ว่าเพดานหนี้อาจมีอิทธิพลต่อสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและการเงินในวงกว้างแต่ว่าการตัดสินใจของเฟดเรื่องของนโยบายทางการเงินจะอยู่กับปัจจัยต่างๆประกอบไปด้วยเช่นตอนนี้สำคัญสุดๆพูดตลอดก็คือเงินเฟ้อเรื่องของการว่างงานการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือเสถียรภาพการเงินเป็นหลักแม้ว่าการถกเถียงเรื่องเพดานหนี้อาจจะสร้างความไม่แน่นอนนะครับแล้วก็อาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน แต่เป้าหมายหลักของเฟดนะฮะที่กำหนดท่าทีนโยบายการเงินยังอยู่ที่เสถียรภาพด้านราคาและการจ้างงานเต็มอัตราก็คือเรื่องของเงินเฟ้อนั้นแหละกับเรื่องของอัตราการว่างงานนั่นเองซึ่งในเรื่องนี้นะครับทางคุณจะเริ่มพาเวลก็เคยออกมาพูดถึงเรื่องนี้เช่นเดียวกันนะครับว่าเขามีมุมมองต่อการขยายเพดานหนี้ตรงนี้อย่างไรและมันมีผลกระทบอย่างไรนะคะเขาก็บอกว่าเรื่องของไอ้เด็ดลิมิตในตรงนี้นะครับเป็นเรื่องที่แบบมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยมันไม่ควรจะเกิดขึ้นด้วยแล้วก็มันจะทำให้เกิดความไม่แน่นอนสูงมากๆคือให้ลิอัลเซอร์เทนแล้วก็เกิดเนกาทีฟเอฟเฟค เศรษฐกิจค่อนข้างมากนะครับสิ่งที่เราสัมภาษณ์ซึ่งผมบอกว่าเคสนี้น่าสนใจมากเลยเขาบอกโนวสันชุดแอบซุ่มเดอะเฟซแขนโปรเจคดีอีโคโนมี่ฟอร์มเดอะเพลนเชิญช็อตแอนด์ลองเทอมเอฟเฟ็กส์ออสเตรเลียถูกเผอะบิวอ้อนถามเขาใช้คำง่ายดีนะก็คือเฟเลียทูเพลย์อันเบอร์มิวออนทามก็คือจ่ายหนี้ไม่ทันนั้นแหละฮะเขาพูดชัดเจนเลยว่ามันไม่มีใครรู้หรอกฮะแล้วก็อาจสู้ไม่ได้หรอกว่าเฟดเนี่ยจะ 3 ารถเป็นตัวแปรสำคัญในการโพรเทคเรื่องของความล้มเหลวในการผิดนัดชำระหนี้ได้พูดง่ายๆคือออกมาพูดงี้หมายความว่าเฟดไม่ได้มีอำนาจมากพอ หรือว่าไม่ได้มีกลไกที่จะมาช่วยบรรเทาปัญหาตรงนี้ได้เพราะมันคือปัญหาเรื่องการคลังมันเป็นปัญหาคือเรื่องของงบประมาณเรื่องของรัฐบาลสหรัฐเฟดดูเรื่องการเงินนั่นเองครับทีนี้มาคุยกันต่อครับว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นนะฮะหากว่าประสบความล้มเหลวในการปรับขึ้นเพดานหนี้จะเป็นอย่างไรคุณมาร์คแซนดีครับหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของมูดี้ส์อนาลิติกส์ครับเปิดเผยกับวอชิงตันโพสต์ว่ามันจะเกิด 5 ข้อนี้ครับ หนึ่ง สต๊อกแคทครับก็คือตลาดหุ้นจ่ะ ทรุดลงอย่างรุนแรงก็คือตลาดหุ้นของสหรัฐเป็นหลักก่อนนะฮะเขาบอกว่าเมื่อเกิดการผิดนัดชำระหนี้เนี่ยผลกระทบจะเกิดขึ้นก็คือหุ้นจะร่วงหนักก็คือเสียเครดิตสุดๆเลยแล้วก็ลุกลามไปยังเศรษฐกิจอื่นๆที่มันมีผลอยู่แล้วเพราะมันเชื่อมโยงกันหมดเนาะมูดี้ส์อนาติ๊กได้คาดการณ์ว่าราคาหุ้นอาจจะลดลงประมาณ 20% ทำลายความมั่งคั่งในภาคครัวเรือนสหรัฐไปถึง 10 ล้านล้านดอลลาร์แล้วก็จะกระทบต่อบัญชีเกษียณของชาวอเมริกันหลายล้านคนดัชนีหุ้นสหรัฐฯเนี่ยเคยรวมประมาณ 20% ในปี 2,011 นะครับซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สหรัฐเคยมีความเ 4 ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้มาแล้วแล้วก็ถูก เครดิตความน่าเชื่อถือลงนี้คืออันแรกอันที่ สอง รัฐบาลสหรัฐจะถังแตกครับถังแตกแล้วกระทบไทยโดยตรงเลยครับเพราะอะไรข้าราชการนั่นเองครับหรือว่าคนที่ใช้สวัสดิการอยู่ไม่ 3 ารถจ่ายเงินสวัสดิการประกันสังคมประกันสุขภาพให้กับชาวอเมริกันรวมไปถึงพลเรือนกองทัพทหารและข้าราชการกว่า 4.2 ล้านคนจ๊ะ ไม่ได้เงินนะโดนเบี้ยวหาไม่ได้รับเงินจากรัฐบาลส่งผลให้ชาวอเมริกันหลายล้านคนตกที่นั่งลำบากครับอันที่ 3 ครับก็คือจะเกิดเศรษฐกิจถดถอยฉับพลันแล้วก็ชาวอเมริกันตกงานครับข้อมูลนี้ระบุมานะครับคาดการณ์ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากวิกฤตเพดานหนี้แบ่งเป็น 3 ซีนาริโอ หนึ่ง เ 4 ยงอันตรายคนตกงาน 200,000 ตำแหน่งเศรษฐกิจหดตัว 0.3% อัตราการว่างงาน ศูนย์ 1% สอง เป็นช็อตดิฟหรือว่าผิดนัดชำระหนี้ระยะสั้นคนตกงาน 500,000 คนเศรษฐกิจติด -0.6% ว่างงานเพิ่มขึ้น 0.3% เลวร้ายที่สุดครับยืดเยื้อครับ ก็คือผิดนัดชำระหนี้ไปเรื่อยๆอาจทำให้คนตกงานถึง 8,300,000 ตำแหน่งเศรษฐกิจติด -6.1% และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นอีก 5% อันนี้คือยิ่งกว่าโควิด 19 อีกนะฮะแต่ต้องเป็นเส้นที่เลวร้ายที่สุดนะก็ต้องฟังหูไว้หูนะฮะ นี่คือข้อที่ 3 ครับคือเศรษฐกิจถดถอยฉับพลันผลกระทบจะเกิดขึ้นอีกครับอันที่ 4 ครับมูลค่าตราสารหนี้จะสั่นสะเทือนเนื่องจากหลายประเทศนั้นปกป้องนะฮะเรื่องของเงินของตัวเองด้วยการซื้อหนี้ของรัฐบาลสหรัฐคือพันธบัตรนั่นเองนะฮะแล้วก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยที่สุดเนาะจีนก็ซื้อเยอะใช่ไหมฮะแต่อย่างที่เราทราบกันแต่การละเมิดเพดานหนี้นี้ทำให้มูลค่าของพันธบัตรลดลงทำให้เงินสำรองของประเทศต่างๆจะเสียหายตลาดตราสารหนี้ของสหรัฐฯปัจจุบันมีมูลค่า 46 ล้านล้านดอลลาร์ส่วนใหญ่ถือครองในต่างประเทศและอีกส่วน หนึ่ง ถือครองโดยเฟสปัจจุบันเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐคือญี่ปุ่น ถ้าอิงจากเดือนมีนาคม 2,023 ที่ประมาณ 1,087 ล้านดอลลาร์นะครับรองลงมาคือจีนครับ 869 ล้านดอลลาร์อันดับ 3 คืออังกฤษครับ 714 ล้านดอลลาร์แล้วถ้าดูไทม์ไลน์ของญี่ปุ่นและจีนในปีที่ผ่านมาก็มีการเทขายพันธบัตรรัฐบาลเป็นจำนวนมากเนื่องจากขาดความเชื่อมั่นที่ลดลงจากนี้ของสหรัฐนั่นเองนะครับ แล้วก็ข้อที่ 5 ครับหลายประเทศอาจจะถือครองดอลลาร์น้อยลงเนื่องจากดอลลาร์เป็นสกุลเงินที่ใหญ่ที่สุดอยู่แล้วเนอะคลองตลาดการค้าโลกมานานหลายทศวรรษซึ่งสาเหตุไม่ใช่แค่สหรัฐเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างเดียวแต่ว่ามีผลสืบเนื่องมาจากการที่เรื่องของพลังงานด้วยครับน้ำมันก็มีซื้อขายอิงกับสกุลเงินดอลลาร์แล้วก็สกุลเงินดอลลาร์ยังถูกใช้เรื่องของสินค้าโภคภัณฑ์หลายอย่างด้วยนะฮะหากรัฐบาลผิดนัดชำระก็จะทำให้นักลงทุนสูญเสียความเชื่อมั่นในเงินสกุลดอลลาร์นำไปสู่การอ่อนค่าของดอลลาร์ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศและลามต่อไปยังตลาดเงิน และตลาดทุนทั่วโลกนั่นเองนะครับนี่คือ 5 ข้อหลักแต่ต้องบอกกับทุกท่านอย่างนี้ก่อนนะครับว่ามันเป็น 5 ข้อที่มองว่าเคสพอสมควรเพราะว่านักวิเคราะห์หลายคนก็มองว่าในเมื่อเขาขยายเพดานหนี้มาแล้วอู 78 10 ครั้งครั้งนี้ก็จะน่าจะได้เหมือนกันหลายคนก็มองว่ามีโอกาสที่จะเจรจาต่อรองได้เป็นเกมการเมืองและคุยกันไปก่อน หนึ่ง มิถุนายนเส้นตายน่าจะทันแล้วลองไปดูนักลงทุนกันสักเล็กน้อยดีกว่าว่านักลงทุนต่างประเทศและไทยมองอย่างไรนะครับเอาดูนักลงทุนในวอลล์สตรีทเนี่ยออกมาคาดการณ์ทิศทางความผันผวนของตลาดหุ้นและตลาดอัตราแลกเปลี่ยนนะครับท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯในการบรรลุข้อตกลงเรื่องของการขยายเพดาน นี้รายงานระบุอย่างนี้ครับว่าค่าเงิน $1 อเมริกาซื้อขายในกรอบแคบเมื่อเทียบกับคู่สกุลเงินหลักๆนะครับเนื่องจากเหล่านักเตะเนี่ยก็รอดูนะความชัดเจนของการพูดคุยระหว่างประธานสภาผู้แทนราษฎรก็คือคุณเนวินมากที่กับประธานาธิบดีโจไบเดนนั่นเองนะครับเค้าบอกว่าการเจรจาขยายเพดานหนี้กลายเป็นอีก หนึ่ง ปัจจัยไม่พึงประสงค์เลยสำหรับนักลงทุนแล้วก็ต้องรับมือกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจนโยบายครั้งต่อไปของเฟดด้วยก็คือมี สอง ปัจจัยในเดือนมิถุนายนนี้เลยเนาะนักยุทธศาสตร์ของเจพีมอร์แกนเชสแล้วก็มอร์แกนสแตนลีย์เตือนว่าหากสหรัฐไม่ 3 ารถขยายข้อตกลงเรื่องเพดานหนี้ได้ ก็จะคุกคามการซื้อขายในตลาดไปนะครับรายงานยังระบุนะครับว่านักลงทุนทำยังไงตอนนี้บรรดาเทรดเดอร์ก็เริ่มสะสมสวอปครับหรือว่าตัวเลือกสำหรับสกุลเงินหลักเพื่อป้องกันพอร์ตการลงทุนของตัวเองก็คือเรื่องประกันความเ 4 ยงของตัวเองแล้วนั่นเองนะครับเพราะฉะนั้นเราก็สังเกตได้ชัดเจนนะครับว่าตลาดการเงินตลาดทุนนักลงทุนไม่ชอบนะฮ่ะไม่ชอบความไม่ชัดเจนแบบนี้นะครับแล้วก็ค่อนข้างมีความกังวลทีนี้มาดูไทยบ้างดีกว่าครับคุณศุภวุฒิสายเชื้อนะครับซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์จากเกียรตินาคินภัทรเนี่ยนะฮะมองว่าปัญหาเพดานหนี้นั้น 3 ารถขยายได้หากติดตามดูทั้ง สอง พรรคนั้นถือว่าก็มีความจริงจังทั้งคู่แล้วเราน่าจะเห็นภาพชัดเจนเกิดขึ้นน่าจะมีดีลที่เกิดขึ้น เพราะว่าเรารู้อยู่แล้วว่าซีรีส์เนี่ยเป็นจินตนาการของอเมริกาที่ไม่มีใครทำกันเพราะเวลาคุณผ่านงบประมาณประจำปีไปแล้วมันรู้อยู่แล้วครับว่าจะขาดดุลเท่าไหร่แล้วทราบดีว่าหนี้สาธารณะน่าจะขึ้นมาเท่าไหร่ไม่ใช่ไต้หวันแล้วถึงเจอนะว่าอาแยแล้วต้องขยายเพดานหนี้ขึ้นมันรู้อยู่แล้วตั้งแต่ผ่านร่างงบประมาณมาแล้วนะครับเพราะฉะนั้นเขาเลยมองว่าเป็นเครื่องมือในการหาเสียงนั่นเองซึ่งคุณศุภวุฒิสายเชื้อเขาบอกว่าอเมริกันทำร้ายตัวเองมากเลยเพราะว่าความน่าเชื่อถือเนี่ยก็จะลดลงไปด้วยนะครับแต่มันกระทบครับมันกระทบกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯในระดับนึงตรงนี้เองครับทำให้พันธบัตรของเขานะฝืดขึ้นและเราเองครับก็คือไทยก็กระทบไปด้วยเพราะว่าตลาดหุ้นบ้านของเขาลงเราก็ลงเป็นตาม ธรรมชาติในแง่ของค่าเงินดอลลาร์ก็จะแกว่งมากและมีแนวโน้มอ่อนลงเพราะคนไม่อยากถือแต่ก็คาดเดาได้ยากนะครับเช่นแอฟริกาใต้ที่เป็นผู้ผลิตทรัพยากรต่างๆหากสหรัฐเกิดปัญหาคนก็อาจจะนี้เข้าเซเว่นและเอาเงินออกจากตราสารหนี้แต่เงินของตลาดเกิดใหม่อาจไปเข้าดอลลาร์ก็ได้นะฮะอีก หนึ่ง ความเห็น หนึ่ง ของด็อกเตอร์พิพัฒน์เหลืองนฤมิตชัยครับเป็นหัวหน้าเศรษฐศาสตร์จากเคพีรีเสิร์ชเช่นเดียวกันนะครับประเมินว่าสำหรับผลกระทบของโรคนี้ที่อันมีต่อไทยน่าจะเกิดผ่านเรื่องของอินเตอร์เน็ตมากกว่าก็คือเป็นเรื่องทางอ้อมคือความผันผวนของตลาดหากตลาดมีความกังวลมากก็จะทำให้เกิดแรงเทขายสินทรัพย์เ 4 ยง ซึ่งรวมถึงสินทรัพย์ในตลาดไทยด้วยหรือในกรณีแย่ที่รัฐบาลสหรัฐฯต้องการลดการใช้จ่ายหรือว่าหยุดการใช้จ่ายก็อาจจะนำไปสู่ภาวะการถดถอยทางเศรษฐกิจแน่นอนครับประเทศไทยก็จะได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นเดียวกันและหรือว่าเลวร้ายสุดๆเลยมีการผิดนัดชำระหนี้แต่ว่าด็อกเตอร์พิพัฒน์มองว่าไม่น่าจะเกิดนะครับมองว่าน่าจะเจรจากันได้เพราะว่าต้นทุนความเสียหายนั้นมันสูงเกินไปนะครับแต่ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะถูกลากไปเรื่อยๆในการเจรจาต่อรองไปถึงจุดที่แบบคือใกล้เส้นตายจริงๆอะถึงจะตกลงกันได้นะครับโดยสรุปครับเราจะแล้วนะครับว่าการเจรจาต่อรองเพื่อขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯในตอนนี้เป็นเกมการเมือง นะครับแล้วก็มีความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดมากพอสมควรก็คงจะต้องจับตาแล้วก็ภาวนาฮะว่าการเจรจาต่อรองนี้จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีแล้วก็ทำให้เรื่องของความชัดเจนการขยายเพดานหนี้นั้นมันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจหรือว่าภาพรวมของตลาดทุนไปมากกว่านี้เพราะตอนนี้ก็มีความกังวลอยู่มากพอสมควรอยู่แล้วนี่คือเรื่องของเดชศิริครับต้องจับตาดูกันต่อไปครับว่าจะขยายเพดานหนี้ได้หรือไม่และในระยะยาวจะเกิดผลกระทบสืบเนื่อง หลังจากนี้ต่อไปอย่างไรสวัสดี